ฟิลิปปินส์ บรูไน อัญมณีแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก

เที่ยวฟิลิปปินส์ สัมผัสลาตินอเมริกา แห่งทวีปเอเชีย ดินแดนที่มากกว่าความสนุก ประเทศหนึ่งเดียวที่มีพื้นที่ทางทะเลติดต่อกันยาวที่สุดในโลก สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เป็นประเทศที่เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่มีเกาะในทะเลมากถึง 7,107 เกาะ มีประชากรมากถึง 90 ล้านคน
ฟิลิปปินส์ เป็นหนึ่งในสองชาติในเอเชียที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ เป็นหนึ่งในชาติที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกมากที่สุด อีกทั้งเป็นชาติที่ใช้ภาษามากถึง 170 ภาษา โดยมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของประชากรสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีการใช้ภาษามากเป็นอันดับ 3 ของโลก
ประเทศสหรัฐอเมริกา และสเปน เป็นสองประเทศที่มีอิทธิพลใหญ่ต่อวัฒนธรรมของชาวฟิลิปปินส์ ในยุคอาณานิคม โดดเด่นเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล หรือหาดทราย จึงเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนจากทั่วโลกอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ฟิลิปปินส์มีความผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่รวมเอาไว้ทั้งความเป็นตะวันตก และตะวันออกเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน ที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไม่ได้สูง

กรุงมะนิลา Manila เมืองหลวงของประเทศ เท็กซัส แห่งเอเชีย มหานครแห่งความสนุกสนาน ประตูสู่เจ็ดพันกว่าเกาะในฟิลิปปินส์ กรุงมะนิลา หนึ่งในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นอันดับที่ 11 ของโลก ตั้งอยู่ริมปากแม่น้ำปาชิก ก่อนที่จะไหลลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ณ อ่าวมะนิลา บนเกาะลูซอน เที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือสุดของฟิลิปปินส์ เป็นเมืองสำคัญที่มีคนมาจากหลากหลายเชื้อชาติ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม วัฒนธรรม การศึกษาของประเทศ บนถนนในเมืองมะนิลาเต็มไปด้วยรถจิ๊ปนีย์ (Jeepney) มากมาย เป็นรถโดยสารสองแถวสีสันแสบฉูดฉาดบาดตาบาดใจ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่มีสีสันของที่นี่ คนมะนิลามีอัธยาศัยที่ดีมักจะคอยให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยสถานที่ท่องเที่ยวในมะนิลาส่วนใหญ่จะมีความโดดเด่นทางด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม มีสถาปัตยกรรมสเปนในยุคอาณานิคมปะปนอยู่กับตึกสูงระฟ้าที่ทันสมัย ย่านที่ไม่ควรพลาดของกรุงมะนิลา คือ ย่านมากาติ (Makati) เป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดฮิตและเป้นย่านธุรกิจชั้นนำ คล้ายๆกับย่านสีลมของไทย แต่มีความสะอาดและสวยงามกว่า

เกาะโบราเคย์ Boracay หรือ เกาะโบราไกย์ สวรรค์แห่งทะเลแปซิฟิก เกาะที่มีคลื่นสวยงาม อากาศเย็นสบาย ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในฟิลิปปินส์ ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศได้รับรางวัลเกาะที่ดีที่สุดในโลกในปี ค.ศ. 2012 จากนิตยสาร Travel+Leisure และในปี ค.ศ. 2013 ได้รับยกย่องว่าเป็นเกาะที่สวยที่สุดในโลก และเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “Too late the Hero” น้ำทะเลที่นี่สวยเหใอนทะเลอันดามันของประเทศไทย แต่โทนสีของน้ำจะแตกต่างและสวยไปอีกแบบ มีหาดหลัก 2 หาด คือ หาดทรายขาว (White Beach) เป็นหาดที่สวยที่สุด ทรายสีขาวละเอียดตลอดระยะทาง 4 กิโลเมตร ไล่โทนสีฟ้าอ่อนจากทะเลตื้นไปสู่ฟ้าเข้มในทะเลลึก มีบรรยากาศที่คึกคัก ในช่วงเวลาหัวค่ำจะมีโชว์ควงกระบองไฟให้ชม และหาดบูลาบอก (Bulabog) หาดที่มีคลื่นแรง มีกิจกรรมทางน้ำ เช่น เจ็ทสกี เรือใบ เซิร์ฟ กระดานโต้คลื่น ร่มร่อน บนเกาะยังมีถ้ำที่สวยงาม และป่าเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ และมีกิจกรรมปีนเขา เดินป่า ปั่นจักรยานเสือภูเขา ขี่ม้า และที่เป็นสีสันของที่นี่ คือ การนั่งเรือบังก้า (Bunga) เรือที่มีโครงเหมือนขาแมงมุม

เกาะเซบู (Cebu Island) เกาะตากอากาศโรแมนติก เกาะที่ใหญ่ที่สุดเกาะหนึ่งในฟิลิปปินส์ “ราชินีแห่งเกาะใต้” ล้อมรอบด้วยเกาะเล็กๆมากมาย มีหาดทรายสีขาวยาวเหยียดเป็นเส้นตรง น้ำทะเลสีฟ้ากับสีเขียวเมอร์ริเดียน เกาะเซบู “ลิตเติ้ลสเปนแห่งอาเซียน” เมืองหลวงเก่า เมืองสัญลักษณ์การท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศที่มีสีสันและหลากหลาย ผู้คนเป็นมิตร เมืองเซบู ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งที่ 2 รองจากกรุงมะนิลา สถานที่จัดงานประชุมสัมมนายอดฮิต เป็นแหล่งผลิตกีตาร์ระดับโลก มีศิลปะอันเลื่องชื่อ สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ อัญมณีชั้นนำ ทั้งยังเป้นแหล่งดำน้ำระดับโลก หากได้ไปเยือนเกาะเซบู จะต้องไปชมไม้กางเขนเก่าแก่โบราณคู่เมือง (Magallen’s Cross) อายุกว่า 500 ปี บนเกาะนี้ยังมีน้ำตก ป่าไม้ที่เขียวชอุ่ม และหน้าผาที่สวยงามให้ชม เหมาะกับคู่ฮันนีมูน นั่งสูดกลิ่นอายทะเลแปซิฟิก ฟังเสียงคลื่นเคล้าเสียงกีตาร์คลาสสิก ท่ามกลางลมพัดเย็นชิลๆ ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกกับคนรัก หรือจะตื่นเต้นกับการดำน้ำใกล้ชิดปลาฉลามหางดาบ ฉลามใฬใต้ทะเล ดูปลาทะเลหน้าตาแปลกอีกมากมายที่ หมู่บ้านออสลอบ (Oslop) และเกาะมาลาบีสกัว (Malapascua) ซึ่งเป็นจุดดำน้ำที่ดีที่สุดในฟิลิปปินส์

เกาะปาลาวัน Palawan หรือ จังหวัด-เกาะพาลาวัน หมู่เกาะที่สวยที่สุด และมีธรรมชาติทางทะเลที่สมบูรณ์ที่สุดในฟิลิปปินส์ สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวของเอเชีย เป็นเกาะที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป้นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและกิจกรรมการผจญภัยจากทั่วโลก โดยรอบปาลาวันมีเกาะเล็กๆ น้อยๆ กว่า 1,700 เกาะ ทะเลปาลาวัน อ่าวสวย เงียบสงบ ทะเลทรายสีขาวเนียนละเอียด เป็นรูปแบบอันดามันในไทย แต่มีกลิ่นอายแบบมัลดีฟส์ และคล้ายคลึงกับสิปะดันในมาเลเซีย สีของน้ำทะเลบริเวณรอบๆเกาะจะเป็นสีฟ้า และสีเขียวมรกต สายน้ำใสจนมองเห็นปะการัง สาหร่ายทะเล และดขดหินชัดเจน โดยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์กว่า 70% ในฟิลิปปินส์มีอยู่ที่นี่ บนเกาะปาลาวันมีน้ำตกที่สวยงาม พืชพรรณ สัตว์ป่า รอบๆเกาะมีทัศนียภาพที่สวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศที่ปลอดโปร่งบริสุทธิ์ ลมพัดเย็นๆ ได้กลิ่นอายของดินและมวลดอกไม้ มีจุดชมวิวมากมายนับไม่ถ้วน ป่าที่หลากหลายกว่า 8 ใน 13 ประเภทที่เจอในเอเชียเขตร้อนจะพบได้ที่นี่

เปอร์โต พรินซ์ซา ซิตี้ (Puerto Princesa City) เมืองสวรรค์ในป่าที่มีความคึกคัก ท่ามกลางต้นไม้ขนาดใหญ่ และอากาศที่บริสุทธิ์ เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศฟิลิปปินส์ อีกทั้งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดปาลาวัน เมืองในเขตร้อนที่มีเอกลักษณ์ เป็นเมืองที่สะอาดที่สุด และเขียวขจีที่สุดในฟิลิปปินส์ ได้รับการยกย่องในระดับสากลว่าเป็นเลิศด้านสิ่งแวดล้อม มีป่าฝนเขตร้อนที่เขียวชอุ่ม แหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ในธรรมชาติมากมาย มีการจัดระเบียบการท่องเที่ยว โรงแรมที่พักที่นี่จะขายทัวร์โปรแกรมเดียวกัน และไฮไลท์ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ อุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โต ปรินเซซา “แม่น้ำใต้ดินที่ยาวที่สุดในโลก” (Underground River) เป็นสถานที่ที่ชาวเปอร์โต พรินซ์ซา ซิตี้ ต่างภาคภูมิใจ นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเลือกเมืองนี้เป็นหลักก่อนที่จะเดินทางไปยังที่อื่นๆ

เกาะโบโฮล (Bohol Island) จังหวัดที่มีภาพความน่ารักของลิงทราเซีย ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก และสิ่งมหัศจรรย์ในธรรมชาติที่น่าทึ่งของเนินเขาช็อคโกแลตอันโด่งดัง ที่ตั้งเรียงรายละลานตากว่า 1,268 ลูก เพียงแค่นั่งเฟอร์รี่จากเกาะเซบูใบเวลาสั้นๆ เกาะโบโฮล หนึ่งในหมู่เกาะที่สำคัญที่สุดทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ดินแดนที่มีเกาะมากกว่า 70 เกาะน้อยใหญ่ สวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบกีฬาผจญภัย เกาะที่มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว ตั้งแต่ธรรมชาติที่สวยงาม ป่ามะฮอกกานี นาข้าวขั้นบันได หาดทรายขาวละเอียด จุดดำน้ำที่ดี บ้านเก่า โบสถ์คริสต์โบราณ สถานที่ทางประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ โบโฮลมีเมืองหลัก คือ เมืองแทกบิลารัน (Tagbilarun) นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ส่วนใหญ่จะเดินทางมาเพื่อชมภูเขาช็อคโกแลต กลุ่มภูเขาหินปูนที่มีรูปร่างคล้ายกรวยคว่ำดุสวยงามแปลกตาในเมืองคาร์แมน (Carmen) มาดูลิงทราเซีย (Tarsier) ลิงลมตัวเล็กๆ น่ารัก ดวงตากลมโต

บาเกียว (Bagiuo) ดินแดนมหัศจรรย์บนหุบเขา เมืองท่องเที่ยวระดับต้นๆของอาเซียน เมืองตากอากาศที่ชาวฟิลิปปินส์เดินทางไปท่องเที่ยวมากที่สุดบนเกาะลูชอน คล้ายภาคเหนือของประเทศไทย อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีแตกต่างจากส่วนอื่นๆของประเทศ อุณหภูมิประมาณ 14 องศาโดยเฉลี่ย แม้แต่โรงแรมชั้นนำยังไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ บาเกียวตั้งอยู่บนพื้นที่สูงสุดของประเทศฟิลิปปินส์ เต็มไปด้วยต้นสน และพืชผลไม้เมืองหนาว บ้านเรือนส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ตามเนินเขา พื้นที่ไม่ใช่ที่ราบ สูงๆต่ำๆสลับกันมากมายดูสวยงามละลานตา และมีเสน่ห์ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “เมืองดอกไม้และสวนสวย” และ “เมืองแห่งต้นสน” เพราะยังมีความอุดมสมบูรณ์ด้านธรรมชาติอยู่มาก บาเกียวเป็นแหล่งปลูกสตรอเบอร์รี่แห่งเดียวในฟิลิปปินส์

นาขั้นบันได บานาเว่ Rice Terrace of Banaue มีอายุเก่าแก่กว่าสองพันปี ชนพื้นเมืองดั้งเดิมค่อยๆ สกัดภูเขาทั้งลูกเป็นขั้นบันไดด้วยสองมือและเครื่องมือพื้นบ้านที่มี ชาวฟิลิปปินส์ภูมิใจจนยกให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับแปดของโลก ที่งดงามและเลื่องชื่อ ที่บานาเว่ นักท่องเที่ยวจะสามารถเดินทางไปดูชีวิตของชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่อยู่รายรอบนาขั้นบันไดได้เลย ซึ่งผืนนาที่นี่มีอายุยืนยาวผ่านร้อนผ่านฝนมานับร้อยปีแล้วเช่นกัน จึงนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำอีกจุดหนึ่งของฟิลิปปินส์นาขั้นบันไดแห่งเทือกเขาฟิลิปปินส์ ได้รับการลงทะเบียนมรดกโลก ในปี พ.ศ. 2538

ตาไกไต (Tagaytay) เมืองตากอากาศบนที่ราบสูง ท่ามกลางภูเขาตาไกไต เมืองท่องเที่ยวแนวสุขภาพ ที่เน้นด้านการอนุรักษ์สิงแวดล้อม แหล่งที่มีธรรมชาติสวยงามและมีอากาศสดชื่นเย็นสบายตลอดทั้งปี ปกคลุมไปด้วยสายหมอก เป็นแหล่งปิคนิคของชาวฟิลิปปินส์ ตาไกไต อยู่ในจังหวัดบาตังกัส (Batangas) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมะนิลา เพียง 55 กิโลเมตร มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกยอดฮิต คือ ทะเลสาบตาอัล ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามบนปากปล่องภูเขาไฟ (TAAL Volcano) ภูเขาไฟที่เล็กที่สุดในโลกและยังไม่ดับสนิท การพิชิตยอดเขาแห่งนี้ส่วนใหญ่จะนิยมขี่ม้าที่มีให้บริการ และยังมีเครื่องเล่น Zip Line อันน่าตื่นตาตื่นใจ ตาไกไตเต็มไปด้วยบ้านพักตากอากาศ โรงแรมรีสอร์ท สวนสนุก คาสิโน

บรูไน หนึ่งใน AEC ประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว ในทะเลจีนใต้ มีชื่อประเทศเต็มๆ ว่า เนการา บรูไน ดารุสซาลาม (Negara Brunei Darussalam) เมืองหลวงชื่อ บันดาร์ เสรี เบกาวัน
ภูมิประเทศส่วนใหญ่ของประเทศบรูไน เป็นป่าไม้ และป่าดงดิบที่ยังอุดมสมบูรณ์ บนพื้นที่ประมาณ 5,765 ตารางกิโลเมตร รวมทั้งมีแหล่งน้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติอยู่อย่างมหาศาล บรูไน มีการส่งออกน้ำมันมากเป็นอันดับที่ 9 ของโลก ซึ่งสร้างความมั่งคั่งจนกลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย ทางด้านการท่องเที่ยวบรูไน โดดเด่นในเรื่องสถาปัตยกรรม ซึ่งแต่ละแห่งมีการทุ่มทุนในการก่อสร้าง และการตกแต่งสถานที่อย่างไม่อั้น อาทิเช่น มัสยิด และพระราชวังก็ล้วนแล้วแต่ประดับไปด้วยทองคำแท้ และเพชรพลอยอย่างงวิจิตรงดงามเลอค่าไปทุกสิ่งอย่าง ความอลังการของสถาปัตยกรรมและแหล่งท่องเที่ยวสุดอเมซิ่งของบรูไน เรียกได้ว่าทั้งงดงามทั้งมหัศจรรย์แบบที่คาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว

มัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน (Sultan Omar Ali Saifuddin Mosque)
มัสยิดเก่าแก่ศูนย์รวมจิตใจ และเป็นสถานที่สำคัญที่สุดของศาสนาอิสลามในประเทศบรูไน ตั้งอยู่กลางกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน เมืองหลวงและเมืองท่าที่สำคัญของประเทศ เป็นสถาปัตยกรรมที่วิจิตรงดงามเลอค่าจนได้ชื่อว่าเป็นมินิทัชมาฮาล สุลต่านโอมาร์ อาลี ไซฟุดดิน ที่ 3 พระราชบิดาของสุลต่านองค์ปัจจุบันเป็นผู้ออกแบบ และดูแลการก่อสร้างด้วยพระองค์เอง มัสยิดแห่งนี้มีความสูง 52 เมตร โดมทรงกลมบนหลังคาสร้างจากทองบริสุทธิ์ พื้นด้านในปูด้วยหินอ่อน ภายในสุเหร่าปูพื้นด้วยหินอ่อนจากอิตาลี และพรมที่สั่งทอพิเศษผืนใหญ่มหึมา ความโดดเด่นของมัสยิดโอมาร์ อาลี ไซฟัดดิน คือ ความสวยสง่าเสมือนเป็นมัสยิดศักดิ์สิทธ์บนเกาะเล็กๆ และจะมีทางเดินเชื่อมไปยังเรือที่อยู่กลางน้ำ ก่อนเข้าชมผู้หญิงจะต้องเปลี่ยนชุด นักท่องเที่ยวจะต้องเก็บสิ่งของไว้ในล็อกเกอร์และห้ามถ่ายรูปใดๆ

พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย (Royal Regalia Museum)
พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย ตั้งอยู่ใจกลางกรุงบันดาร์ เสรี เบกาวัน ได้รับการยกย่องว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีสมบัติล้ำค่า และน่าชมที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปเอเชีย เป็นสถานที่รวบรวมข้าวของ และเครื่องใช้ ซึ่งล้วนแล้วแต่หาค่ามิได้ของสุลต่านองค์ปัจจุบัน มีทั้งราชรถทองคำ ฉลองพระองค์ทองคำ เครื่องทรงทองคำ อาวุธทองคำ ล้วนเป็นทองคำไปทุกสิ่งอย่าง รวมทั้งมีการแสดงพระราชประวัติขององค์สุลต่าน และเครื่องราชบรรณาการจากนานาประเทศ ที่มีความวิจิตรงดงามสูงค่าแบบหาดูได้ยาก เช่น คริสตัล หยก งาช้าง และยังมีพระที่นั่งจำลองมาให้ได้ชมกัน
ไฮไลท์ของพิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย ได้แก่ ห้องเล็ก ๆ ที่จำลองขบวนพาเหรด และการตกแต่งอันสวยงาม เนื่องในวโรกาสครบรอบ 25 ปีที่องค์สุลต่านขึ้นครองราชย์ โดยที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้ชมฟรี ด้านในห้องที่จัดแสดงห้ามถ่ายรูป นักท่องเที่ยวจะต้องถอดรองเท้าพร้อมเก็บของทุกชิ้นไว้ที่ล็อคเกอร์เก็บของ

หมู่บ้านกัมปงไอเยอร์ (Kampong Ayer)
หมู่บ้านลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่แม่น้ำบรูไน กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ชาวยุโรปยุคแรกๆ ที่เข้ามาบรูไน เรียกหมู่บ้านกลางน้ำแห่งนี้ว่า เวนิชแห่งตะวันออก ในหมู่บ้านแบ่งเป็นหมู่บ้านย่อย ๆ อีกกว่า 42 หมู่บ้าน และมีจำนวนประชากรกว่า 30,000 คน นักท่องเที่ยวจะได้ชมศิลปะการสร้างบ้านเรือนนับพันบนแม่น้ำบรูไนโดยการใช้เสาไม้ค้ำยันเป็นหลักอยู่ด้านล่าง สัมผัสการใช้ชีวิตของชาวบรูไนแบบดั้งเดิม ชมการคมนาคมซึ่งสัญจรกันโดยใช้เรือพายและชิม ของว่างซึ่งเป็นขนมท้องถิ่นและน้ำชาแสนอร่อย ในแต่ละหมู่บ้านนั้นเชื่อมต่อถึงกันหมดด้วยทางเดินที่ทอดยาวกว่าสามสิบกิโลเมตร บริเวณหมู่บ้านมีระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันทั้งไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และยังมีโรงเรียน โรงพยาบาล ร้านอาหาร มัสยิด รวมไปถึงสถานีตำรวจอีกด้วย

พระราชวัง Istana Nurul Iman (The Istana Nurul Iman palace)
ตั้งอยู่ในกรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใหญ่กว่าพระราชวังแวร์ซายสี่เท่าและใหญ่กว่าพระราชวังบักกิ้งแฮม ที่อังกฤษ ถึงสามเท่า พระราชวัง Istana Nurul Iman เอกลักษณ์ทาง สถาปัตถยกรรมของบรูไนที่มีความงามโดดเด่นทั้งภายในและภายนอก บนพื้นที่กว่า 19,400 ตารางเมตร พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1987 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 1.4 ล้านดอลลาร์ ภายในพระราชวังถูกตกแต่งอย่างประณีตด้วยวัสดุชั้นเลิศ และทองคำแท้ ประกอบไปด้วยห้องต่างๆ 1,788 ห้อง, ห้องน้ำ 257 ห้อง และ 5 สระน้ำ นอกจากนี้ ยังมีห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ซึ่งบรรจุได้ถึง 5,000 คน ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฟิลิปปินส์ Locsin เป็นทั้งทำเนียบรัฐบาล และใช้สำหรับต้อนรับบุคคลสำคัญจากต่างประเทศที่มาเยือน ในโรงรถมีราชรถแบบสุดหรูกว่า 5000 คัน มี Bentleys ทำด้วยทองคำ Ferrari และ Rolls Royces ซึ่งสั่งทำพิเศษคันเดียวในโลก นอกจากนั้นยังมีเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 มูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์ เครื่องบินส่วนพระองค์อีก 6 ลำ พระราชวังแห่งนี้เปิดให้เข้าชมเพียงปีละครั้งหลังเดือนรอมฎอน หรือ หลังพิธีถือศีลอดเป็นต้นไป

Visitors: 608,035