สาธารณรัฐมองโกเลีย Republic of Mongolia
สาธารณรัฐมองโกเลีย
Republic of Mongolia
สาธารณรัฐมองโกเลีย (Republic of Mongolia) เป็นประเทศในทวีปเอเชียที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มองโกเลียเคยเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิมองโกลในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 ซึ่งต่อมาได้ยึดอำนาจเข้าปกครองจีน และได้รับเอกราชจากการช่วยเหลือของสหภาพโซเวียต ซึ่งส่งผลให้สหภาพโซเวียตเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของมองโกเลีย และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหภาพโซเวียตทำให้ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศลดลง และส่งผลกระทบให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นในมองโกเลียในช่วงที่มองโกเลียกำลังเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบสังคมนิยมมาสู่ระบบตลาดเสรี มองโกเลียจึงเร่งเปิดประตูสู่นานาชาติมากขึ้น
มองโกเลีย ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่เงียบสงบ มีวัฒนธรรมอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ผู้คนใช้ชีวิตเรียบง่าย อยู่กันแบบร่ร่อนเลี้ยงสัตว์ ท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามทุ่งหญ้าสเตปป์ ที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา โดยมีขุนเขาทอดยาวเป็นฉากหลัง ใครชอบเที่ยวแนวลุย ๆ ดิบๆ บอกเลยไม่ควรมองข้ามประเทศนี้เด็ดขาด
ภูมิประเทศและภูมิอากาศ
มองโกเลีย เป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก รองจากประเทศคาซัคสถาน พื้นที่ของประเทศทั้งหมด 1.5 ล้าน ตารางกิโลเมตร (ใหญ่กว่าประเทศไทย 3 เท่า) ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง ภูเขา และทุ่งหญ้า พรมแดนทางเหนือติดกับประเทศรัสเซีย และทางใต้ติดกับประเทศจีน ไม่มีอาณาเขตติดทะเล และมีพื้นที่ที่สามารถใช้สำหรับการเกษตรได้น้อยกว่า 1% สภาพภูมิอากาศเป็นแบบทะเลทราย คือระหว่างวันและแต่ละฤดูกาลอุณหภูมิจะต่างกันมาก มักมีภัยธรรมชาติรุนแรง เช่น พายุฝุ่น ไฟไหม้ทุ่งหญ้าและไฟไหม้ป่า ความแห้งแล้ง และอากาศหนาวอย่างรุนแรง

อูลันบาตอร์ Ulaanbaatar
อูลันบาตอร์ Ulaanbaatar เมืองหลวงยุคใหม่ของประเทศมองโกเลีย ที่ถูกสถาปนาให้เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านการเมืองการปกครองและด้านพุทธศาสนา เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ในระดับความสูง 1,310 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีแม่น้ำสายสำคัญสายหลักคือแม่น้ำทูลไหลผ่าน
อูลันบาตอร์ แปลว่า วีรบุรุษแดง ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่วีรบุรุษของมองโกเลียชื่อ Damdin Suhbaatar ที่ได้ร่วมกับทหารรัสเซียปลดปล่อย เมืองหลวงยุคใหม่ของประเทศมองโกเลีย ที่ได้รับ การสถาปนาให้เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านการเมืองการปกครองและด้านพุทธศาสนา ประเทศ มองโกเลียเป็นประเทศในทวีปเอเชียที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจาก ประเทศคาซัคสถาน มีพรมแดนทางเหนือติดกับประเทศรัสเซีย และทางใต้ติดกับประเทศจีน มีพื้นที่ ที่สามารถใช้ส าหรับการเกษตรได้น้อยกว่าร้อยละหนึ่ง มีประชากรเพียง 3 ล้านกว่าคน แต่มีพื้นที่ ใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 3 เท่า ซึ่งท าให้ประเทศมองโกเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหนาแน่นของ ประชากรน้อยที่สุดในโลก ซึ่งประชากรส่วนมากนับถือพุทธนิกายวัชรยานแบบทิเบต และประชากร 38% อาศัยอยู่ในเมืองหลวงอูลันบาตอร์นี้ อย่างไรก็ดีอย่าแปลกใจหากท่านพบว่าในเมืองหลวงแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยรถราและการจราจรอันคับคั่งเปรียบเสมือนกรุงเทพฯ หรือมหานครอื่น ๆ ในบางวัน
อูลันบาตอร์ แปลว่า วีรบุรุษแดง ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่วีรบุรุษของมองโกเลียชื่อ Damdin Suhbaatar ที่ได้ร่วมกับทหารรัสเซียปลดปล่อย เมืองหลวงยุคใหม่ของประเทศมองโกเลีย ที่ได้รับ การสถาปนาให้เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านการเมืองการปกครองและด้านพุทธศาสนา ประเทศ มองโกเลียเป็นประเทศในทวีปเอเชียที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจาก ประเทศคาซัคสถาน มีพรมแดนทางเหนือติดกับประเทศรัสเซีย และทางใต้ติดกับประเทศจีน มีพื้นที่ ที่สามารถใช้ส าหรับการเกษตรได้น้อยกว่าร้อยละหนึ่ง มีประชากรเพียง 3 ล้านกว่าคน แต่มีพื้นที่ ใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 3 เท่า ซึ่งท าให้ประเทศมองโกเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหนาแน่นของ ประชากรน้อยที่สุดในโลก ซึ่งประชากรส่วนมากนับถือพุทธนิกายวัชรยานแบบทิเบต และประชากร 38% อาศัยอยู่ในเมืองหลวงอูลันบาตอร์นี้ อย่างไรก็ดีอย่าแปลกใจหากท่านพบว่าในเมืองหลวงแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยรถราและการจราจรอันคับคั่งเปรียบเสมือนกรุงเทพฯ หรือมหานครอื่น ๆ ในบางวัน
อุทยานแห่งชาติโบกด์ข่าน Bogd Khaan
อุทยานแห่งชาติโบกด์ข่าน Bogd Khaan ในปี 1783 รัฐบาลมองโกเลียได้แต่งตั้ง Bogd Khaan Uul เป็นอุทยานแห่งชาติเพื่อปกป้องความสวยงาม และเป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อุทยาแห่งชาติโบกด์ข่านมีสภาพแวดล้อมที่มีความสวยงามและเงียบสงบ ภูเขาปกคลุมด้วยต้นไม้สนและต้นซีดาร์
ชม พระอารามมันชูศรี Manzushir Temple ก่อตั้งขึ้นในปี 1733 มีวัดทั้งหมด 20 วัดและพระสงฆ์ 350 รูป แต่ถูกทำลายในช่วงปี 1937
ชม พิพิธภัณฑ์พระอารามขนาดเล็ก สามารถเดินขึ้นเขา ซึ่งอยู่ด้านหลังของวัด จะเห็นวิวหุบเขาที่สวยงามด้านล่าง
ชม พระอารามมันชูศรี Manzushir Temple ก่อตั้งขึ้นในปี 1733 มีวัดทั้งหมด 20 วัดและพระสงฆ์ 350 รูป แต่ถูกทำลายในช่วงปี 1937
ชม พิพิธภัณฑ์พระอารามขนาดเล็ก สามารถเดินขึ้นเขา ซึ่งอยู่ด้านหลังของวัด จะเห็นวิวหุบเขาที่สวยงามด้านล่าง

ทะเลทรายโกบี Gobi Desert
ทะเลทรายโกบี Gobi Desert ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างประเทศมองโกเลียตอนใต้ กับเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ทางตอนเหนือของประเทศจีน โกบีเป็นทะเลทรายที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ทอดตัวเป็นแนวโค้งยาว 1,600 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 1.3 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่พอ ๆ กับรัฐอะลาสกาของสหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 2.5 เท่าของประเทศไทย ทะเลทรายแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ราบสูงเหนือระดับน้ำทะเล 900-1,500 เมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหินล้วนทางด้านตะวันออก ส่วนด้านตะวันตกเป็น อุณหภูิมิเฉลี่ยสูงสุด และต่ำสุดอยู่ที่ -40 ถึง 50 องศาเซียลเซียต ในเวลากลางคืน และตอนกลางวัน ตามลำ สาเหตุที่พื้นที่บริเวณนี้เป็นทะเลทรายเนื่องจาก เทือกเขาหิมาลัย Himalaya Range เป็นตัวขวางกันเมฆฝน และความชื้น ที่จะมายังทะเลทรายโกบี
จุดเด่นอย่างหนึ่งของ ทะเลทรายโกบีได้แก่สิ่งที่อยู่ภายใต้ทะเลทรายแห่งนี้ นั่นคือ ซากฟอสซิลไดโนเสาร์ตั้งแต่ครั้งบรรพกาล นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าในอดีตพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นแหล่งอาศัยอยู่ของเหล่าไดโนเสาร์มาก่อน ทำให้นักบรรพชีวินค้นพบซากฟอสซิล และ ไข่ไดโนเสาร์จากทะเลทรายโกบีเยอะแยะมากมาย อีกทั้งทะเลทรายแห่งนี้ยังเป็นแห่งแรกที่ขุดพบซากฟอสซิลอีกด้วย นอกจากนี้ทะเลทรายโกบียังเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางสายไหมอันโด่งดังในอดีต อีกประวัติหนึ่งกล่าวว่าทะเลทรายแห่งนี้เกี่ยวข้องกับมหาบุรุษเจงกีสข่านอีกด้วย

ซากาน ซูวาร์กา Tsagaan Suvarga
สุดยอดภูมิทัศน์อัศจรรย์ของทะเลทรายโกบี ผาสถูปใหญ่ ซากาน ซูวาร์กา Tsagaan Suvarga ซึ่งมีความหมายว่า สถูปสีขาว White Stupa หน้าผาธรรมชาติที่สวยงามยิ่งใหญ่ ตั้งตระหง่านสูงชันถึง 60 เมตรและกว้างถึง 400 ที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ ที่ในอดีต 10 ล้านปีก่อน บริเวณหน้าผานี้เคยอยู่จมอยู่ใต้น้ำทะเล เมื่อเวลาผ่านไปน้ำทะเลเหือดแห้งลง เกิดการกัดเซาะของชั้นดินจากลม ฝน ทำให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ จินตนาการเสมือนหนึ่งเป็นซากเมืองโบราณ ลักษณะเป็นหน้าผาทรงสถูป คล้ายแพะเมืองผี หรือ เสาดินนาน้อยของไทย แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก มีสีขาวของหินปูน และสีดินที่แตกต่างกันเป็นชั้นๆ สายลมช่วยเปลี่ยนรูปร่างไปตามกาลเวลา

หุบเขายาล Yol Valley
หุบเขายาล Yol Valley สภาพถนน 200 กม. เป็นถนนลาดยาง , 40-50 กม. ถนนไม่ดี มีฝุ่น) ซึ่งเป็นพื้นที่เป็นช่องเขาของภูเขากูวานไซข่าน Gurvan Saikhan Mountain ก่อนเคยมีชื่อเรียกว่า ปากแร้ง Lammergeier’s Mouth (Lammergeier เป็นนกแร้งชนิดหนึ่ง หรือมีอีกชื่อว่า หุบเขานกแร้ง Vulture Valley ในสมัยก่อน) รถจะวิ่งผ่านช่องเขาแคบๆรายลอบด้วยหน้าผาชันสูง จนเข้าถึงหุบเขา
หุบเขานกแร้งยาล Yol Valley หรือ ยาลลีน อัม Yoliin Am ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลทรายโกบี อยู่ในอุทยานแห่งชาติ โกบี กูรวานไซข่าน Gobi Gurvansaikhan National Park ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นจุดที่สวยงามที่สุดของฝั่งตะวันออก (ของเทือกเขา) มีลักษณะเป็นหุบโตรกชัน มีความสูง 2,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ครอบคลุมพื้นที่ 64 ตารางกิโลเมตร ยาวประมาณ 40 กิโลเมตร สูงถึง 200 เมตร มีลักษณะเป็นหุบเขาที่ลึกและแคบลงเรื่อยๆ จนเดินผ่านได้เพียงแค่หนึ่งหรือสองคนเท่านั้น เป็นหุบเขาที่แสงแดดส่องเข้าไปไม่ถึง ทำให้ภายในเป็นชั้นน้ำแข็งหนาเกือบตลอดทั้งปี ระหว่างทางเดินของช่องเขามีลำธารสายเล็กๆ ไหลผ่าน ตลอดทางเดินจะพบกับต้นไม้ทุ่งหญ้า ดอกไม้ และกระต่ายที่รูปร่างคล้ายหนูตัวเล็กๆไพกา Pika หากมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อาจยังมีทุ่งน้ำแข็งหลงเหลืออยู่ในช่องเขา ใช้เวลาเทร็กกิ้งสำรวจภูมิทัศน์แปลกตาราว 2-3 ชั่วโมง
หุบเขานกแร้งยาล Yol Valley หรือ ยาลลีน อัม Yoliin Am ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลทรายโกบี อยู่ในอุทยานแห่งชาติ โกบี กูรวานไซข่าน Gobi Gurvansaikhan National Park ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นจุดที่สวยงามที่สุดของฝั่งตะวันออก (ของเทือกเขา) มีลักษณะเป็นหุบโตรกชัน มีความสูง 2,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ครอบคลุมพื้นที่ 64 ตารางกิโลเมตร ยาวประมาณ 40 กิโลเมตร สูงถึง 200 เมตร มีลักษณะเป็นหุบเขาที่ลึกและแคบลงเรื่อยๆ จนเดินผ่านได้เพียงแค่หนึ่งหรือสองคนเท่านั้น เป็นหุบเขาที่แสงแดดส่องเข้าไปไม่ถึง ทำให้ภายในเป็นชั้นน้ำแข็งหนาเกือบตลอดทั้งปี ระหว่างทางเดินของช่องเขามีลำธารสายเล็กๆ ไหลผ่าน ตลอดทางเดินจะพบกับต้นไม้ทุ่งหญ้า ดอกไม้ และกระต่ายที่รูปร่างคล้ายหนูตัวเล็กๆไพกา Pika หากมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อาจยังมีทุ่งน้ำแข็งหลงเหลืออยู่ในช่องเขา ใช้เวลาเทร็กกิ้งสำรวจภูมิทัศน์แปลกตาราว 2-3 ชั่วโมง

หน้าผาเพลิงบายันซัก Bayan Zag Flaming Cliffs
หน้าผาเพลิงบายันซัก Bayan Zag Flaming Cliffs เป็นหน้าผาหินสีแดงเพลิงสูงใหญ่มีความสูง 30 เมตร ยาว 100 เมตร เกิดขึ้นจากการกัดกร่อนจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งในทะเลทราย และสีของดินเหลืองรวมกับสีของแสงพระอาทิตย์ ที่ตกกระทบลงมาที่หน้าผาสะท้อน ทำให้ออกมาเป็นสีแดงสวยราวกับเพลิงไฟ บนหน้าผาจะมีลมค่อนข้างแรง ทางเดินค่อนข้างแคบ ในปี ค.ศ. 1920 มีการค้นพบไข่ไดโนเสาร์เป็นครั้งแรก โดยนักบรรพชีวีนวิทยา ชาวอเมริกัน ชื่อ Roy Chapman Andrews บริเวณรอบๆ หน้าผาแห่งนี้ ต่อมาได้ขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์ที่มีอายุกว่า 60-70 ล้านปี ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งขุดพบฟอสซิสที่สำคัญของโลกหลากหลายสายพันธุ์ และถูกนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลก

โขดหินบาก้า กาซริน ชูลู Baga Gazriin Chuluu
โขดหินบาก้า กาซริน ชูลู Baga Gazriin Chuluu เป็นแนวโขดหินที่ก่อตัวเป็นหุบเขาหินแกรนิต ตั้งอยู่เหนือที่ราบทุ่งหญ้าสเต็ปป์ เหนือระดับน้ำทะเล 1768 เมตร ยาว 15 กิโลเมตร และแผ่กว้างออกถึง 10 กิโลเมตร ลักษณะโขดหินตะปุ่มตะป่ำจากการกัดกร่อนของลมและทราย ผิวหินแกรนิตบางส่วนถูกขัดเป็นรอยลึกแนวยาวตามทิศทางลมแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของกระแสลมที่กัดกร่อนภูเขาหินแกรนิตตลอดระยะเวลาหลายล้านปี ลักษณะโขดหินของบาก้า กาซริน ชูลูแตกต่างจาก โขดหินอิคห์ กาซริน ชูลู โดยที่ลักษณะโขดหินของที่นี่เป็นแท่งกลมมน ส่วนของอิคห์ กาซริน ชูลูจะมียอดปลายแหลมมากกว่า ในบริเวณหุบเขายังมีสมุนไพรท้องถิ่นกว่า 20 ชนิด และสัตว์ท้องถิ่นหายากอีหลายชนิดเช่น กระรอกหินมาร์มอต Marmot, แพะไอเบ็ก Ibex และกวางภูเขา Mountain Sheep ตลอดแนวหุบเขาหินแกรนิต ยังปรากฏร่องรอยของ ภาพเขียนบนหิน Rock Painting, ภาพแกะสลักบนหิน Petroglyphs, เนินดินหลุมฝังศพ Burial Mounds ของชนพื้นเมืองโบราณ แสดงให้เห็นว่าหุบเขาแห่งนี้เป็นทางผ่านของชนพื้นเมืองโบราณ
แนวโขดหินอิค์ห กาซริน ชูลู Ikh Gazriin Chuluu
แนวโขดหินอิค์ห กาซริน ชูลู Ikh Gazriin Chuluu เป็นแนวภูเขาหินแกรนิตที่ใหญ่ที่สุดในมองโกเลีย ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดดุนโกบี Dundgobi ของทะเลทรายโกบีตอนเหนือ ใจกลางทุ่งหญ้าสเต๊ปป์ เป็นอีกหนึ่งทิวทัศน์แปลกตาที่จะเห็นได้ในทริปนี้ เดินทาง 450 กม. ใช้เวลาเดินทาง 8 ชม. สภาพถนน 220 กม. แรกเป็นถนนลาดยาง ส่วน 230 กม. ถัดมา สภาพถนนไม่ดี มีฝุ่น ที่เกิดจากการฟอร์มตัวทางธรณีวิทยาให้ชั้นหินแกรนิตยกตัวขึ้นเป็นแนวภุเขาหินที่ใหญ่ที่สุดในมองโกเลีย กินอาณาเขตจากตะวันออกจรดตะวันตกถึง 20 กิโลเมตร ชมภูมิทัศน์ของโขดหินแกรนิตพุ่งชันชี้ฟ้าคล้ายทุ่งเจดีย์หิน ดูงดงามแปลกตา ยอดที่สูงที่สุดคือภูเขาเยอร์ลุก Yurlug Mountain ที่มีความสูงถึง 1706 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
ภายในแนวโขดหินอิคห์ กาซริน ชูลู มีตำนานเรื่องชนพื้นเมืองโบราณที่อาศัยอยู่ตามถ้ำที่มีอยู่จำนวนมากในบริเวณนี้ ชื่อของพวกเขาได้กลายเป็นชื่อเรียกภูเขาลูกต่างๆในแนวโขดหินนี้ บริเวณทุ่งโขดหินเหล่านี้เต็มไปด้วยแร่ธาตุหลาหลาย เช่น คริสตัล Crystal, หยก Jade, โมรา Chalcedony, ฟลูออไรท์ Fluorite นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยพืนพรรณสมุนไพร กว่า 30 สายพันธุ์ เช่น โรสรูท Roseroot (ไม้ดอกตระกูลโรดิโอรา) , ไม้พุ่มซิลเวอร์วีด Silverweed และ ไม้ตระกูลถั่วโลโควีด Locoweed และสัตว์ประจำถิ่นมากกว่า 20 สปีชี่ รวมทั้งค้างคาวหนวดป่า Whiskered Bat
ภายในแนวโขดหินอิคห์ กาซริน ชูลู มีตำนานเรื่องชนพื้นเมืองโบราณที่อาศัยอยู่ตามถ้ำที่มีอยู่จำนวนมากในบริเวณนี้ ชื่อของพวกเขาได้กลายเป็นชื่อเรียกภูเขาลูกต่างๆในแนวโขดหินนี้ บริเวณทุ่งโขดหินเหล่านี้เต็มไปด้วยแร่ธาตุหลาหลาย เช่น คริสตัล Crystal, หยก Jade, โมรา Chalcedony, ฟลูออไรท์ Fluorite นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยพืนพรรณสมุนไพร กว่า 30 สายพันธุ์ เช่น โรสรูท Roseroot (ไม้ดอกตระกูลโรดิโอรา) , ไม้พุ่มซิลเวอร์วีด Silverweed และ ไม้ตระกูลถั่วโลโควีด Locoweed และสัตว์ประจำถิ่นมากกว่า 20 สปีชี่ รวมทั้งค้างคาวหนวดป่า Whiskered Bat

อุทยานแห่งชาติคุสเตน เนอรูอู Khustain Nuruu National Park
อุทยานแห่งชาติคุสเตน เนอรูอู Khustain Nuruu National Park รัฐบาลมองโกเลียได้ประกาศให้อุทยานแห่งชาติคุสเตน เนอรูอู เป็นเขตคุ้มครองพิเศษตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ที่อุทยานนี้เราจะได้เห็นม้าป่าพันธุ์ท้องถิ่นที่ชื่อ ทาคิ Takhi หรือ พรึซึวาลสกี้ Przewalsky ถือเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของมองโกเลีย ที่แสดงถึงการมีชีวิตอยู่ในป่าอย่างแข็งแกร่ง และอดทด
แคมป์มองโกล นอมาดิก Mongol Nomadic Camp
แคมป์มองโกล นอมาดิก Mongol Nomadic Camp สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของ ครอบครัวชาวพื้นเมืองของมองโกลเลีย ที่อาศัยอยู่ในกระโจมมองโกลที่เรียกว่า “เกอร์ Ger” ภายในจะมีสิ่งอานวยความสะดวกต่าง ๆ เช่นเตียง, โต๊ะหรือตู้ และเตาผิงไฟ ส่วนใหญ่ชาวพื้นเมืองจะพักรวมกันกับครอบครัว และแต่ละครอบครัวจะเลี้ยงวัว, เเพะ และแกะไว้เพื่อบริโภคนม หรือเนื้อ พวกผู้ชายก็จะทาหน้าที่เลี้ยงสัตว์ ผู้หญิงก็จะมีหน้าที่รีดนม ในหนึ่งวันจะรีดนมประมาณ 3-4 ครั้ง ใช้เวลาตั้งแต่เช้ามืดไปจนดึก ๆ หลังจากนั้นจะหาบนมมาเก็บไว้ที่เกอร์ สมัยก่อนชาวมองโกลส่วนใหญ่เป็นพวกเร่ร่อน ในปีหนึ่งชาวมองโกลจะย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ๆ ตามฤดูกาล จึงมีการออกแบบให้รื้อถอนได้ง่าย แต่ปัจจุบันกาลังเลือนหายไป อันเนื่องมาจากกระแสลัทธิทุนนิยมที่กาลังขยายตัวในประเทศมองโกเลีย
สัมผัสวิถีชีวิตขนานแท้ของชนเผ่ามองโกเลีย ชมสภาพความเป็นอยู่ในกระโจมแบบดั้งเดิม การรีดนมจามรี รีดนมแกะ กลั่นเหล้า เลี้ยงปศุสัตว์ และการละเล่นต่างๆของชนเผ่ามองโกเลีย
สัมผัสวิถีชีวิตขนานแท้ของชนเผ่ามองโกเลีย ชมสภาพความเป็นอยู่ในกระโจมแบบดั้งเดิม การรีดนมจามรี รีดนมแกะ กลั่นเหล้า เลี้ยงปศุสัตว์ และการละเล่นต่างๆของชนเผ่ามองโกเลีย