หุบเขานารูโกะ

หุบเขาแห่งนี้มีวิวที่รถไฟวิ่งลอดอุโมงค์ออกมาจากภูเขาเป็นสถานที่อีกแห่งที่สวยงามมาก ซึ่งเป็นหุบเขาที่ลึกและยาวมีความโดดเด่นของสะพานที่ล้อมรอบไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี สีสดใส ประกอบกับเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่ยาวประมาณ 2.6 กิโลเมตร

 

 

 

หมู่บ้านน้ำพุร้อนนารุโตะตั้งอยู่กลางทิวเขา ขึ้นชื่อเรื่องหุบเขาขนาดใหญ่ เรียกว่าช่องเขานารุโกะเคียว ซึ่งเกิดจากแม่น้ำโอยางาวะ มีทิวทัศน์อันตระการตาของหมู่บ้านนารุโกะออนเซ็น ไม่ว่าจะเป็นภูเขา หุบเขา แม่น้ำ และต้นไม้เขียวชอุ่ม ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดปีนเขายอดนิยม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงและส้ม

 

 

 

หมู่บ้านน้ำพุร้อนนารุโกะออนเซ็น เป็นหมู่บ้านออนเซ็นขนาดใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ถูกค้นพบเมื่อภูเขาไฟในละแวกเดียวกันปะทุ ในค.ศ. 837 ที่นี่โด่งดังด้านการมีบุคคลในประวัติศาสตร์มากมาย มาเยี่ยมเยือน เป็นต้นว่า มินาโมโตะ โนะ โยชิซึเนะ แม่ทัพผู้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ยุคเฮอัน หรือกวีไฮกุ มัตสึโอะ บะโช ผู้ประพันธ์บทกลอน ซึ่งชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศรู้จักอย่าง โอคุ โนะ โฮโซมิจิ หรือ เส้นทางแคบสู่สุดขอบตอนเหนือ ซึ่งหมายถึงภูมิภาคโทโฮคุนั่นเอง

 

 

ของดีประจำเมืองนี้ก็คือตุ๊กตาไม้ขนาดจิ๋วที่เรียกกันว่า ตุ๊กตาโคเคชิ ซึ่งผลิตจากไม้เนื้อขาว ลำตัวทรงกระบอกสูง หัวกลมและโต วาดลวดลายด้วยพู่กัน ใบหน้าเป็นรูปเด็กผู้หญิง วาดเป็นตา จมูก ปาก แบบง่าย ๆ ส่วนอื่น ๆ วาดเป็นลายเส้น ริ้วหรือแถบสี ชุดกิโมโน แต่ที่นิยมที่สุดคือดอกไม้ โดยเฉพาะเบญจมาศ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความมีอายุยืนยาว ทั้งยังเป็นดอกไม้ประจำชาติอย่างไม่เป็นทางการของญี่ปุ่น เช่นเดียวกับดอกซากุระ ด้วยความเชื่อที่ว่าตุ๊กตาโคเคชิจะช่วยอำนวยพรให้เด็ก ๆ มีสุขภาพแข็งแรง ชาวญี่ปุ่นจึงมักมอบตุ๊กตาโคเคชิเป็นของขวัญสำหรับเด็กแรกเกิด ยังมีความเชื่ออื่นเกี่ยวกับตุ๊กตาโคเคชิอีก เช่น เป็นเครื่องรางที่ช่วยปกป้องบ้านจากไฟไหม้ ขับไล่ภูตผีปีศาจ ส่วนชาวไร่ชาวนาเชื่อว่าตุ๊กตาโคเคชิจะช่วยบันดาลให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ โดยตุ๊กตาโคเคชิ จะไม่เหมือนกันสักตัวเลย เพราะแต่ล่ะตัวจะแตกต่างจากตระกูลที่ทำ