เกาหลีใต้ ในสายลมหนาว
เกาหลีใต้ในสายลมหนาว
ซีรี่ย์ภาพยนต์เกาหลี ที่โด่งดังและทำให้คนไทยรู้จักประเทศเกาหลีมากขึ้นเรื่อง Winter Sonata หรือ เพลงรักในสายลมหนาว เกาะนามิ กลายเป็นเป้าหมายที่คนไทยไทยรแห่ไปเที่ยวเกาหลีกันมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงการเที่ยวเกาหลีทั่วไปก็จำกัดอยู่เฉพาะในกรุงโซลและพื้นที่ใกล้เคียง เช่น เกาะนามิ โซรัคซาน และสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ และเน้นนหนักแค่การช้อปปิ้งเครื่องสำอางและเสื้อผ้าเท่านั้น ต่ในความเปนจริง เกาหลีใต้มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งแบบวัฒนธรรม และธรรมชาติ และยังมีมรดกโลกอีกหลายสิบแห่งกระจายกันทั่วทุกภูมิภาค และยังเที่ยวได้ทุกฤดูกาล พลาเน็ทบลู ขอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวรอบๆเกาหลีใต้ ท่ามกลางสายลมหนาว
เริ่มต้นจาก เกาะเชจู Jeju ไข่มุกเม็ดงามบนทะเลจีนใต้ ที่คนเกาหลีต่างยอมรับว่าเกาะเชจูมีชายหาดและทะเลที่สวยที่สุดในประเทศเกาหลีเกาะเชจูนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่กำลังเป็นที่นิยมทั้งในหมู่คนเกาหลีและชาวต่างชาติ ทั้งนี้ก็เพราะว่ามีสถานที่เที่ยวงดงามด้วยกันหลายที่ด้วยกัน อาทิเช่น Loveland ที่มีรูปปั้นแนว 18+ ไว้สำหรับเป็นการให้ความรู้แนวผู้ใหญ่ๆ นอกจากนั้นเกาะเชจูยังมีสถานที่เหมาะๆสำหรับคู่รักอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นลงสุดโรแมนติก ริมชายหาดแสนสวย ไม่เพียงเท่านี้ที่เกาะเชจูยังมีภูเขา Halla ที่เป็นจุดที่สูงที่สุดของประเทศเกาหลี ที่นักท่องเที่ยวสามารถไต่เขาขึ้นไปชมความงดงามของทะเลสาป Baeknok ได้ด้วย ที่เกาะเชจูนี้คุณยังจะได้สัมผัสกับชีวิตการล่าสัตว์น้ำของนักดำน้ำหญิง ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่แปลกเพราะธรรมดาต้องเป็นผู้ชายที่เป็นคนหาปลาแต่นี่เป็นเพศหญิงแทน อีกอย่างที่แปลกจนคนพูดถึงอยู่บ่อยๆก็คือรูปปั้นประหลาด คล้ายๆครึ่งเห็นครึ่งคนแก่ ที่กระจายอยู่รอบๆเกาะเชจูแห่งนี้
เมืองโซกวิโพ Seogwipo อยู่ทางตอนใต้ของเกาะเจจู มีโรงแบบเก๋ๆ, ผาหินสวยๆ, ชายหาดยอดฮิต รวมไปถึงน้ำตกสุดตระการตา เมืองชายหาดแห่งนี้มีกิจกรรมทางทะเลให้ทำมากมาย เช่น ดำน้ำ, ทัวร์เรือดำน้ำ แถมยังมีร้านอาหารหลายแห่งที่มีพ่อครัวที่มีฝีมือเป็นเลิศในการทำอาหารทะเล และ อาหารพื้นเมืองแสนอร่อย นอกจากนั้นหากเข้าไปในตัวเมืองยังมี วัด พิพิธภัณฑ์ สวนสนุก รวมทั้ง สวนพฤกษชาติให้เข้าชมอีกด้วย หากอยากไปดูสนามฟุตบอลที่เคยใช้แข่งขันฟุตบอลโลกก็สามารถเข้าชมได้เช่นกัน
เมืองปูซาน Busan เมืองหลักที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเกาหลีใต้ ปูซาน ถือว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเกาหลีรองจากกรุงโซล เป็นเมืองท่าริมทะเลที่มีความเจริญ และมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก และปูซานยังขึ้นชื่อเรื่องชายทะเลที่สวยงาม และมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ทำให้ปูซานมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อย่างถ้าหากมาปูซานเมืองชายทะเลแล้วก็ต้องไม่พลาดที่จะมาเที่ยวที่นี่ “วัดแฮดอง ยงกุงซา” เป็นวัดที่สร้างอยู่ริมทะเลที่มีความสวยงามมาก เพียงแค่เดินทางมาถึงที่วัดแห่งนี้ก็จะสัมผัสได้กับบรรยากาศชายทะเลที่มีลมพัดสบายกายและใจ ได้เห็นท้องฟ้าสีครามตัดกับสีของน้ำทะเลอันสดใส ก่อนที่จะเดินไปถึงตัววัดด้านใน จะมีร้านค้าขายของกินของฝากมากมายให้ได้เลือกซื้อ นอกจากนั้นเมืองปูซานยังขึ้นชื่อมากในเรื่องของการช็อปปิ้ง สถานบันเทิงต่างๆยังไม่มีแพ้กรุงโซลเลยด้วย หากคุณเหน็ดเหนื่อยจากการเยี่ยมชมวัด คุณสามารถหลบไปพักผ่อนหย่อนใจได้ที่เกาะ Dongbaek ที่เป็นพื้นที่ ที่ยื่นออกไปในทะเล มีชายหาดและที่พักผ่อนให้คุณหลบจากความวุ่นวายของตัวเมืองได้ นอกจากนั้นที่เมืองบูซานยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งให้เข้าชมได้อีกด้วย
เมืองเคียงจู Gyeongju เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จนได้ฉายาว่าเป็นเมืองแห่ง“พิพิธภัณฑ์ไร้กำแพง” ในอดีตเคียงจูเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรชิลลา Shilla 1 ใน 3 อาณาจักรอันยิ่งใหญ่ในยุคสามก๊กของเกาหลี(อีก 2 ก๊กคือ อาณาจักรแพ็กเจ และโกกูรยอ) ซึ่งถูกสถาปนาเมื่อราว 57 ปี ก่อนคริสตกาลหรือราว พ.ศ.486 ด้วยความที่เคียงจูเต็มแน่นไปด้วยรอยอดีตอันรุ่งโรจน์ซึ่งเราเลือกที่จะมาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ ที่ถ้ามาถึงเคียงจูก็ไม่ควรที่จะมาชมมรดกโลกร่วม 2 แห่งในเมืองนี้ (ยูเนสโกนับเป็นมรดกโลกชุดเดียวกัน) นั่นก็คือ “ถ้ำซ็อกคูรัม” และ “วัดพูลกุกซา” ที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกชุดแรกในเคียงจูในปี ค.ศ.1995 นอกจากนี้ เมืองเคียงจู ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ อีกมากมายเช่น “อุทยานทูมูลี” ทีเป็นสุสานหลวงจากอาณาจักร “หอดูดาวชมซงแด” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหอดูดาวเก่าแก่ที่สุดของโลก สร้างขึ้น สระน้ำอันอั๊บจิบ ซี่งนักโบราณคดีค้นพบสมบัติจำนวนมหาศาลถูกทิ้งอยู่ก้นสระจากการบูรณะขุดลอกสระ และสมบัติเหล่านั้นได้ถูกนำไปจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองเคียงจู
เมืองแดกู Daegu หรือ แทกู เป็นศูนย์กลางการทอผ้าของประเทศเกาหลี เป็นหนึ่งในเมืองที่ใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก เมื่อปี 2002 นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางตลาดพืชสมุนไพรต่าง ๆ ที่ใช้ทำยาของชาวตะวันออก และมีสถานพยาบาลแบบตะวันออกมากถึง 300 แห่ง รวมไปถึงร้านขายยาสมุนไพร ร้านปรุงไพร รวมอยู่ด้วย มี “สวนสนุกนิเวศ Herb Hillz” (Herb Hillz Eco Theme Park) เป็นสวนที่ผสมผสานรูปแบบของสวนพฤกศาสตร์ที่เต็มไปด้วยไม้ดอก และสมุนไพร สัญลักษณ์ของเมืองแดกูอีกอย่างหนึ่งก็คือ หอคอยสูงวูบัง ที่ตั้งตระหง่านสามารถมองเห็นวิวที่สวยงามของเมือง และยังมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องบ่อน้ำแร่ธรรมชาติที่ “สปาวัลเล่ย์” (Spa Valley) ที่นี่มีบ่อน้ำแร่หลากหลายแบบให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบบกลางแจ้ง หรือแบบในร่ม และในแต่ละบ่อจะมีอุณหภูมิแตกต่างกันไป เช่น 38 องศา 42 องศา ฯลฯ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เช่นเดียวกับห้องซาวน่าที่มีอุณหภูมิต่างๆ เช่น 52 , 76 หรือ 83 องศา นอกจากนี้ ยังมีวัดศักดิ์สิทธิ์บนภูเขาพัลกงซาน ที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปประทับยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเดิมวัดแห่งนี้ชื่อ ยูกาซา ได้บูรณะวัดแห่งนี้อีกครั้ง และเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “วัดดงฮวาซา” มีพระบรมสารีริกธาตุ 2 ชิ้น ประดิษฐานอยู่ภายในองค์
เมืองอันดง Andong เมืองแห่งวัฒนธรรมโบราณตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดเคียงซังบุก Gyeonsangbuk เมืองนี้มีหมู่บ้านมรดกโลกทางวัฒนธรรมตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองอันดง “หมู่บ้านโบราณฮาฮเว” (Hahoe Folk Village) ภายในหมู่บ้านฮาฮเวมีสถาปัตยกรรมโบราณตามแบบสมัยราชวงศ์โชซอนตั้งอยู่หลายแห่ง บ้านแต่ละหลังมีอายุยาวนานเป็นร้อยปี โครงสร้างส่วนใหญ่ยังคงเป็นหิน ดินเผาและไม้ ด้านบนหลังคามุงด้วยกระเบื้องหรือฟาง มีหน้าผาสูงและแม่น้ำนักดงกังไหลผ่านทางตะวันตก เรียกว่ามาเยือนที่นี่แล้วรับรองได้ว่าจะสามารถสัมผัสถึงความเป็นเกาหลีโบราณได้อย่างเต็มที่ บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านยังมี “พิพิธภัณฑ์หน้ากากฮาฮเว” เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมหน้ากากไว้มากมายกว่า 300 ชนิด ทั้งของเกาหลีเองและจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งเอเชีย แอฟริกา ยุโรป รวมทั้งคอลเล็คชั่นหัวโขนของประเทศไทย และที่น่าสนใจสำหรับชาวพุทธคือ “พระพุทธรูปหินแกะสลักอิชองดง” (Icheon-dong Buddha) สร้างเมื่อสมัยโครยอในลักษณะประทับอยู่บนฐานปัทม์พระพุทธรูปหินแกะสลักขนาดใหญ่ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองอันดงเพียง 5 กิโลเมตร
จังหวัดคังวอนโด Gangwondo ทางตะวันออกของกรุงโซล มีเมืองใหญ่อยู่ที่ Chuncheon มีชื่อเสียงในเรื่องของความสวยงามตามธรรมชาติโดยมีเนื้อที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและยอดเขาที่มีชื่อเสียงคือซกโซและในแต่ละปีก็มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวและค้นหาซกโซที่พักกันอย่างมากมาย สิ่งที่พลาดไม่ได้คือการนั่ง “รถไฟสายโรแมนติก Sea Train” จากเมืองกังนึง Gangneung จังหวัด คังวอน ถึงเมืองซัมช็อค Samcheok รวมระยะทาง 58 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที โดยมีเส้นทางเลียบไปตามชายฝั่งทะเลตะวันออก รับกลิ่นอายทะเล ด้วยที่นั่งซึ่งถูกจัดให้หันหน้าเข้าสู่ทะเล พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดกว้างให้ชมวิวหาดทรายสีขาวและทิวทัศน์ที่สุดแสนโรแมนติก หรือ การปั่นจักรยานแบบพิเศษปั่นไปตามรางรถไฟ กับกิจกรรม จักรยานรางรถไฟริมสมุทร The Samcheok Ocean Rail Bike สัมผัสกับธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์ตลอดเส้นทาง 5 กิโลเมตร ที่เมืองซัมช็อค หรือว่าจะเป็นชายหาดที่เป็นที่นิยมในช่วงฤดูร้อนอย่างที่เดินมาจากสถานีรถบัสของซกโซที่เรียกว่า Sokcho Beach
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของคังวอนโด ที่ไม่ควรพลาด “ถ้ำวันซอง” Hwanseongul Cave ซึ่งเป็นถ้ำหินปูนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาหลี และงดงามที่สุด และที่พลาดไม่ได้คือ “อุทยานแห่งชาติโซรัคซาน” Mt. Seoraksan ที่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีทองเป็นเหมือนผ้าห่มสีทองผืนใหญ่กับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส ปัจจุบันมี “สวนนํ้าซอรัค วอเตอร์พีย” Seorak ซึ่งมีพื้นที่ถึง 11,000 ตารางเมตร มี ทะเลเทียม สไสด์ เดอร์ และล่องแก่ง และยังมีห้องอาบนํ้าแร่ ห้องซาว์น่า ตอนเหนือสุดของโซรัคซานติดชายแดนเกาหลีเหนือ มีเขตปลอดทหาร DMZ สามารถไปชม “หอสังเกตุการณ์โคซง” Goseong Unification Observatory ที่สร้างโดยกองทัพเกาหลีใต้ เพื่อให้เป็นจุดสังเกตุการณ์การเคลื่อนไหวแนวชายแดนเกาหลีเหนือ ประกอบไปด้วยอาคาร และหอสังเกตุการณ์ สามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของภูเขา แม่น้ำ และชายฝั่งทะเลทางเหนือของเกาหลี
“เกาะนามิ” Nami Island เป็นเกาะนามิเป็นเกาะกลางแม่น้ำที่มีไฮไลต์อยู่ที่ถนนสองฟากเป็นต้นสนสูงทอดแนวยาว ให้ความรู้สึกสุดโรแมนติก และเป็นสถานที่ถ่ายทำละครดัง “The Winter Love Song" หรือ “เพลงรักในสายลมหนาว” ท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศอันแสนโรแมนติก และความงามของทิวสนที่ตั้งตรงดิ่งเป็นแถวยาวตลอด 2 ข้างทาง ซึ่งในแต่ละฤดู เกาะนามิจะมีความสวยงามแตกต่างกันไป ** สำหรับฤดูใบไม้ผลิ (Spring) เกาะนามิจะเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้แรกแย้ม, ฤดูร้อน (Summer) จะเป็นบรรยากาศของต้นไม้ที่ผลิใบสีเขียวสดใส, ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) เกาะนามิได้ชื่อว่าเป็นเกาะแห่งใบไม้ 5 สี เต็มไปด้วยใบไม้สีเหลือง ส้ม เหลืองอมส้ม แดง และน้ำตาล, ฤดูหนาว (Winter) หลังจากที่หิมะแรกตก ประมาณปลายเดือน พ.ย. อากาศจะหนาวเย็น และหากวันไหนที่หิมะตก เกาะนามิจะเต็มไปด้วยสีขาวโพลนของปุยหิมะ อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับการเดินเล่นชมวิวหรือเช่าจักรยานปั่นเที่ยวรอบเกาะและเก็บภาพเป็นที่ระลึก
อีกจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากเมืองร้อนที่ไปเกาหลี ก็มักจะไปเล่นสกีเกาหลี ลานสกีสำหรับผู้ที่่ต้องการไปเที่ยวเกาหลีหน้าหนาวที่ดีที่สุด คือ “ยงเพียงสกีรีสอร์ท” Yongpyong Resort ในจังหวัดคังวอนโด และที่นี่ยังเป็นฉากหนึ่งของในของ Winter Sonata ลานสกีที่นี่โด่งดังไปทั่วเกาหลีและเอเชีย โดยสามารถเลือกที่จะเสียค่าเข้าแบบครึ่งวัน หรือเต็มวันก็ได้ ถือเป็นแหล่งวัฒนธรรมโบราณที่สำคัญของเกาหลีซึ่งยังคงได้รับการสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน
เมืองซูวอน Suwon อยู่ทางตอนใต้ของ กรุงโซล ห่างจากโซลเพียง 30 กิโลเมตร ใน จังหวัดคย็องกี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในเกาหลีใต้ สถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียงและเป็นดึงดูดนักท่องเที่ยวมากที่สุด คือ “ป้อมฮวาซอง” ป้อมปราการและกำแพงโบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด ป้อมฮวาซอง ทอดตัวยาว 5.5 กิโลเมตร ตามแนวไหล่เขาและที่ราบ โอบล้อม เมืองซูวอน ไว้ อีกหนึ่งสถานแห่งความงดงาม “พระราชวังฮวาซองแฮงกุง” ตั้งอยู่ในเขต ป้อมฮวาซอง สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักผ่อนของกษัตริย์ชองโจ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสกับการแสดงแห่งวิถี การใช้อาวุธต่างๆ ของนักรบเกาหลีสมัยโบราณ
เมืองยงอิน Yongin จังหวัดเคียงคีโด มีสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังควรค่าแก่การไปเยือนที่ “วัดวาวูจองซา” Waujeongsa Temple วัดนี้สร้างขึ้นในปี 1970 โดยนักบวชแฮด๊อกเพื่อแสดงการตอบแทนความเมตตากรุณาของพระพุทธเจ้าในการรวมประเทศ วัดวาวูจองซา เป็นวัดเพียงไม่กีวัดในโลกที่รวมคุณค่า 3 ประการไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์คือ พระพุทธ พระสูตร และพระสงฆ์ เป็นวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในเกาหลี ภายในมีรูปสลักสะสมจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลกมากกว่า 3,000 ชิ้น โดยหนึ่งในรูปสลักที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ พระเศียรของพระพุทธเจ้ามีความสูง 8 เมตรตั้งอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าวัดและได้รับการบันทึกลงกินเนสบุ๊คให้เป็นรูปสลักที่ทาจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
อีกดินแดนแห่งความสนุกสนาน เอเวอร์แลนด์ Everland สวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาเมืองยงอิน (Yongin) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซลห่างออกไปรวม 35 กิโลเมตร ก่อตั้งโดยกลุ่มบริษัทซัมซุงเมื่อปี 1976 ที่นี่เทียบชั้นได้กับสวนสนุกระดับโลกอย่างดิสนีย์แลนด์ ทั้งเครื่องเล่นที่หลากหลาย โชว์ระดับอินเตอร์ ทิวทัศน์ที่สวยงามและการประดับตกแต่งบริเวณสวนสนุกที่แตกต่างออกไปตามฤดูกาล หรือเทศกาลต่างๆสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ Everland ถูกขนานนามว่า “ ดิสนีย์แลนด์เกาหลี ”สวนเปิดในหุบเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศ ภายใน Festival World จะประกอบไปด้วย Global Fair, American Adventure, Magic Land, European Adventure และ Equatorial Adventure การท่องเที่ยวภายในสวนสนุกแห่งนี้
กรุงโซล Seoul เมืองหลวงที่เจริญสุดขีดอย่างกรุงโซล มีทั้งวัดสลับตึกสูง เมืองเศรษฐกิจหลักและเมืองหลวงของประเทศ กรุงโซล เป็นอย่างหลอมรวมของวัฒนธรรมยุคสมัยเก่าเช่นวัดโบราณ และสมัยใหม่อย่างตึกสูง โรงแรม เขตเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน เพราะแบบนี้คุณจะเห็นตึกสูงรวมทั้งวัดต่างๆรวมอยู่ในชุมชน หอคอย N Seoul Tower ที่อยู่บนภูเขาของกรุงโซล เป็นสถานที่ที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด เพราะเป็นจุดชมวิวสำคัญมองเห็นได้รอบเมืองแถมเลยออกไปยังจังหวัดอื่นด้วย สำหรับแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่โดดเด่น มีหลายแห่ง ทั้ง “พระราชวังเคียงบ็อก” Gyeongbokgung Palace ซึ่งเป็นพระราชวังไม้โบราณที่เก่าแก่ที่สุด อายุเก่าแก่ กว่า 600 ปีก่อน “พระราชวังถ๊อกซูกุง” Deoksugung Palace พระราชวังเก่าแก่ที่สุดในเกาหลี สร้างโดยกษัตริย์ราชวงศ์โชซอน ในปลายศตวรรษที่ 15 เพื่อใช้สำหรับการเสด็จแปรพระราชฐาน หรือ “พระราชวังชังด็อกกุง” Changdeokgung ที่สวยงามสุดๆตามแบบของเกาหลี ที่ได้รับอิทธิพลสถาปัติแบบจีน หากสนใจวิถีชีวิตชาวเกาหลีโบราณ “หมู่บ้านวัฒนธรรมนัมซาน” Namsan Hanok Village เก็บรักษารูปแบบวิถีชีวิตของชาวเกาหลี ในอดีตผ่านอาคารบ้านเรือนที่ได้รับการบูรณะในสภาพที่ดั้งเดิมได้อย่างน่าประทับใจ
ปิดท้ายกันที่ เมืองอินช็อน Incheon เมืองที่กำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทุกๆด้านทั้งในด้าน ศิลปะ วัฒนธรรม และด้านเศรษฐกิจ เห็นได้จากตึกสูงขึ้นกันเยอะมากในช่วงห้าปีที่ผ่านมา และที่สำคัญในปี 2014 เมือง Incheon ยังจะกลายเป็นเมืองศูนย์กลางเจ้าภาพ Asian Game 2014 ซึ่งจะดูดหลายได้มหาศาลเข้าประเทศอีกด้วย นอกจากนั้นเมือง Incheon ยังมีแหล่งช็อปปิ้งเก๋ๆ ให้เลือกเดินเลือกช็อปกันที่เขต Bupyeong ซึ่งไม่ไกลนักจะมี China Town ซึ่งเป็น China Town ที่เดียวของประเทศเกาหลี นอกจากนี้ยังมี ย่านเมืองใหม่ของอิชอน Tomorrow City เป็นเมืองแห่งอนาคตพร้อมกับลูกเล่นและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการควบคุมและบริการสาธารณะ หรือ หมู่บ้านพื้นเมืองเกาหลี Korean Folk Village แลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมจำนวนมาก ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์จำลองให้เห็นสภาพความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของชาวเกาหลีในสมัยโบราณ
