ไกรลาส โครา Mount Kailash Kora

 ไกรลาส โครา

Mount Kailash Kora

เมืองดาร์เซ็น Darchen เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีโรงแรมกึ่งเกสต์เฮ้าส์ไม่กี่แห่ง มีร้านค้า มีไปรษณีย์ ร้านอาหาร แต่สภาพบ้านเมือง ค่อนข้างสกปรก มีชาวจีนเข้ามาค้าขาย และตั้งรกรากอยู่บางส่วน
 
เมืองดาร์เซ็น Darchen, Tarchan หรือ Taqin เบสท์แคมป์ของเขาไกรลาส หมู่บ้านเล็กๆ ณ เชิงเขาไกรลาส ที่ระดับความสูง 4,575 เมตร (15,010 ฟุต) เมืองที่เป็นทั้งจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดของการเดินเท้าจาริกแสวงบุญรอบเขาไกรลาศ ซึ่งมีระยะทาง 52 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้า ประมาณ 3 วัน
การเดินทางวันแรกของ ไกรลาสโครา Kailash Kora (20 กม. 6-8 ชม.)
 
วันแรกเริ่มต้นที่หมู่บ้านดาร์เซ็น (4,575 เมตร) เดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 6 กม. (30-40 นาที) ไปตามทางไปทางทิศตะวันตกข้ามที่ราบบาร์คา Barkha มองไปทางทิศใต้จะมองเห็นเขากูร์ลามันดาทา Gurla Mandatha และยอดเขาอื่นๆในเนปาล รวมทั้งยอดเขาคาร์เม็ท Karmet ในอินเดียด้วย จากนั้นไต่เนินขึ้นไปเรื่อยๆจะเห็นเขาไกรลาสทางทิศใต้ ซึ่งจุดที่เห็นเขาไกรลาสนี้เป็นจุดแรกของเส้นทางโคราที่ชาวทิเบตอัษฎางคประดิษฐ์ (สังเกตได้จากกองหินมณีและราวธงมนต์) ที่เรียกว่า Chaktsel Gang ซึ้งอยู่ห่างจากดาร์เซ็นประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณชั่วโมงครึ่ง
 
จากนั้นมุ่งไปทางทิศเหนือเข้าสู่หุบเขา แม่น้ำลา Lha-Chu Valley ห่างจากจุดแรกมาประมาณ 2 กม. จะเจอสถูป Kang-nyi หรือประตูยามานตกะ (Yama-Dwar) ให้เดินรอดเปรียบเสมือนประตูสู่หุบเขาแม่น้ำลาและถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางโคราสำหรับนักแสวงบุญ โดยนักแสวงบุญจะเดินลอดเจดีย์นี้แล้วทิ้งเสื้อผ้าปอยผมหรือฟันไว้ เพื่อเป็นสัญญาลักษณ์ของการตายและเกิดใหม่ ห่างไปทางทิศตะวันออกไม่กี่ร้อยเมตรคือ ตาร์โบเซ Tarboche ซึ่งเป็นจุดที่ใช้ทำพิธีสักกะดาวะในวันวิสาขบูชา
 
ออกเดินเท้าไปตามเส้นทางโคราประมาณ 1 ชั่วโมงจะเจอ วัดโชกู Choku Monastery ตั้งอยู่เชิงหน้าผาทางซ้ายมือจะเจอสะพานข้ามแม่น้ำข้ามแม่น้ำลา เพื่อไปวัดโชกู จากสะพานโชกูจนถึง วัดถ้ำดิรา Dira-puk Monastery ใช้เวลาประมาณ 1.5-2 ชม. เราสามารถเลือกเดินทางฝั่งซ้ายหรือขวาก็ได้ใช้เวลาเท่าๆกัน โดยส่วนใหญ่นักแสวงบุญจะใช้เส้นทางฝั่งขวาของแม่น้ำ จากสะพานโชกูมาประมาณ 1.5-2 ชม. จะเจอ Chaktsel Gang จุดที่สอง ซึ่งจากบริเวณนี้จะมองเห็นเขาไกรลาสด้าน ทิศตะวันตก หรือ Ruby face ได้อย่างชัดเจน ถัดจาก Ckanktsel Gang ประมาณ 15 นาที จะมีรอยพระพุทธบาทอยู่บนก้อนหินทางด้านขวาของเส้นทาง บริเวณนี้จะมี Tea House ซึ้งเป็นเต็นท์ขายน้ำและอาหารสำเร็จรูป หากเตรียมอาหารไปเองสามารถใช้บริการน้ำร้อนได้
 
จากจุดนี้แม่น้ำลาจะเริ่มเบี่ยงออกไปทางทิศตะวันออกจาก Tea House ไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงจะเจอสะพานข้ามแม่น้ำลา เดินแยกออกจากเส้นทางหลักเพื่อไปพักค้างคืนที่วัดถ้ำดิราพุก Dira-puk Monastery โดยข้ามสะพานไปเดินอีกฝั่งของแม่น้ำแล้วใช้เวลาเดินอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็จะเห็นเจดีย์องค์เล็กๆ หลายสิบองค์เรียงรายกันเป็นแถวก่อนจะถึง Dira-puk Monastery เส้นทางช่วงจากสะพานโชกูจนถึง Dira-puk Monastery นี้จะเป็นช่วงที่สามารถมองเห็นเขาไกรลาสได้มากที่สุด
วัดถ้ำดิราพุก Dira-Puk Monastery สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1985 ที่ระดับความสูง 4,920 เมตร มีอาคารและเต็นท์หลายหลังเป็นที่พักของนักแสวงบุญชาวอินเดีย วัดแห่งนี้หันหน้าเข้าสู่เขาไกรลาส โดยมีเขาหินสามลูกรายล้อมเชาไกรลาสอยู่ เขาทั้งสามจากด้านขวามือมาถึงซายมือ เป็นตัวแทนของ พระวัชรปาณีโพธิสัตว์ (Chana Dorje), พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (Chenresig) และพระมัญชูศรีโพธิสัตว์ (Jampelyang)
Visitors: 616,158