มนต์เสน่ห์ ฮอกไกโด 4 ฤดู
มนต์เสน่ห์ฮอกไกโด 4 ฤดู
ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเกาะใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ถือเป็นสวรรค์ของธรรมชาติ สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี มีธรรมชาติที่ยังไม่ถูกทำลาย ทั้งภูเขา ที่ราบสูง แม่น้ำ ทะเลสาบ บ่อน้ำพุร้อน และชายฝั่งทะเล มีอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาว มีหิมะที่ขาวละเอียดดุจแป้งฝุ่นและสกีรีสอร์ทที่ดึงดูดนักเล่นสกีจากทั่วโลก ในฤดูใบไม้ผลิซากุระจะบานช้ากว่าภูมิภาคอื่นในญี่ปุ่น สามารถชมซากุระได้ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ในขณะที่ฤดูร้อนอากาศจะไม่ร้อนเหมือนส่วนอื่นๆ ของญี่ปุ่น มีทุ่งดอกไม้ต่างๆ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และในฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนสีก่อนที่อื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกันยายนจนถึงตุลาคม
ฮอกไกโด ในแต่ละฤดูกาลจะมีที่ให้เที่ยวแตกต่างกันออกไป สามารถจัดโปรแกรมการเที่ยว แบบที่ชื่นชอบ ไปท่องเที่ยวในฤดูนั้นนั้น
** ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) **
อากาศหนาวเย็นและ กินเวลานานกว่า 4 เดือน อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -20 ถึง 5 องศาเซลเซียส มีหิมะปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะ ฤดูหนาวนี้ กลางวันจะสั้นกว่าปกติ คือประมาณ 4 โมงเย็นก็เริ่มมืดแล้ว แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จะปิดเร็วกว่าเดิมประมาณ 1 ชม. และสถานที่กลางแจ้ง เช่น สวนต่างๆ ส่วนมากจะมีหิมะปกคลุมจนมองไม่เห็นและไม่สะดวกในการเดินทาง เพราะทั้งลื่น เดินยาก และหนาว หากต้องการไปชมสถานที่ไหน เช่น พิพิธภัณฑ์ หรืออาคารประวัติศาสตร์ ที่เปิดให้เข้าชมภายใน ก็ต้องวางแผนกให้ดีว่า ไปแล้วเปิดแน่ และคุ้มกับความลำบากในการเดินทาง เพระาภายนอกอาคารเหล่านั้นอาจไม่มีอะไรให้เห็นเท่าใหร่ มีแต่หิมะกองสูงเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวก็จะมีโอกาสได้สนุกสนานไปกับการเที่ยวชมงานเทศกาลต่างๆภาย ในท้องถิ่มที่จัดขึ้น เทศกาลที่น่าสนใจของฤดูนี้ที่มีชื่อเสียงระดับโลก คือ เทศกาลหิมะเมืองซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) เทศกาลหิมะที่ทั่วโลกรู้จักดีซึ่งจัด ติดต่อกันมากว่า 60 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังมีเทศกาลหิมะ เมืองอาซาฮิคาวะ (Asahikawa winter festival) และเทศกาลนํ้าแข็งที่ ทะเลสาบอะคัง (Akan lake ice festival) เมืองคุชิโระ นอกจากนั้น ก้มีกิจกรรมสนุกๆ ใหท้เล่นอีกมากมาย เช่น เล่นหิมะ สกี ล้อเลื่อน ตกปลาบนนํ็้าเแข็ง หรือล่องทะเลสาบนั้าแข็งอันแสนจะหนาวเย็น
** ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) **
เป็นช่วงที่อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้น อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10-20 °C ในเดือนเมษายน อากาศจะยังค่อนข้างเย็นอยู่ และหิมะอาจยังละลายไม่หมด นับเป็นเดือนที่คนมาเที่ยวกันน้อยที่สุด อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นราวๆ เดือนพฤษภาคม ซึ่งจะสามารถชมซากุระได้ในเมืองทางใต้ของเกาะ เช่น ฮาโกดาเตะ มัตสิมาเอะ (ซึ่งช้ากว่าที่โตเกียวประมาณ 1 เดือน พอดีกับวันหยุดยาวต้นเดือนพฤษภาคมในบ้านเรา แต่ระวังว่า ตรงกับเทศกาลวันหยุดยาว หรือ Golden Week ของญี่ป่นด้วย ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเยอะมากในสัปดาห์นี้) รวมทั้งทางตอนกลางเกาะก็สามารถชมซากุระได้เช่นกัน ส่วนตอนบนแถบเมืองมอนเบ็ทสิ มีดอกทิวลิปและดอกพิงค์มอสในช่วง พฤษภาคม-มิถุนายน
** ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) **
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 28-35 °C แถบ เมืองบิเอจะ มีทุ่งนาสีทองตัดกับสีเขียว และเนินเขา ทิวไม้ที่สวยงาม แถบเมืองฟุระโนะก็มีทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงแสนสวย และทุ่งดอกไม้ห้าสีนอกจากนี้ยังมีเทศกาลฤดูร้อนที่เป็นเทศกาลประจำปีของประเทศญี่ปุ่นที่จะมีดอกไม้ไฟให้ชมด้วย(งานดอกไม้ไฟที่ทะเลสาบโทยะถือเป็นจุดที่มีเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยาวนานที่สุดในประเทศญี่ปุ่น) ซึ่งช่วงนี้ น่าเที่ยวที่สุดเพราะอากาศจะกำลังสบาย ช่วงกลางวันจะยาวกว่ากลางคืนประมาณ 2 ชม.ทำให้มีเวลาเที่ยวได้มากในแต่ละวัน
** ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) **
อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 12-20 °C สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงนี้ได้แก่ อุทยานแห่งชาติไดเซ็ทสึซัง นั่งกระเช้าชมยอดเขาคุโรดาเกะ หรือไป เมืองโซอุนเคียว ชมน้ำตกริวเซะและน้ำตกกิงกะ. ช่วงนี้ใบเมเปิ้ลลจะเปลี่ยนจากเหลืองเป็นแดงทั้งต้น สวยงามมาก